หากคุณกำลังเป็นคนหนึ่งที่กำลังวางแผนทำประกันสุขภาพ ก็คงเคยได้ยินคำว่า ประกันสุขภาพแบบแยกจ่าย และ ประกันสุขภาแบบเหมาจ่าย กันมาบ้างแล้วใช่ไหม สองคำนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องของประกันสุขภาพเหมือนกัน แต่กลับมีหลายเรื่องที่ค่อนข้างแตกต่างกัน โดยในวันนี้เราจะมาขอเล่าถึงรายละเอียดที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ 2 สิ่งนี้ เพื่อที่จะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อประกันได้อย่างเหมาะสมที่สุดกันครับ
ประกันสุขภาพแบบแยกจ่าย จะเป็นการระบุวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่ค่อนข้างชัดเจน เช่น ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ ค่าตรวจวินิจฉัย โดยจะมีการจ่ายตามจริงแต่จะไม่เกินวงเงินที่ระบุไว้ในความคุ้มครอง ซึ่งข้อดีคือ ค่าเบี้ยประกันที่ต่ำกว่าแบบเหมาจ่าย
ตัวอย่างเช่น หากการผ่าตัดหนึ่งครั้ง มีค่าใช้จ่ายรวมกัน เช่น ค่าแพทย์ผ่าตัด ค่าแพทย์วิสัญญี และค่าห้องผ่าตัด รวมกันมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 100,000 บาท โดยหากนำรายการมาแยกจะพบว่า ค่าใช้จ่ายที่นำมาหักลบกับประกันสุขาภแบบแยกจ่ายจะเพียงแค่ 63,00 บาท ทำให้ส่วนต่างอีก 37,000 บาท เราจะต้องจ่ายเอง
ในขณะที่ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย จะมีรูปแบบการจ่ายค่ารักษาแบบเหมารวม โดยจะจ่ายตามจริงแต่จะไม่เกินจำนวนของผลประโยชน์สูงสุดตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันสุขภาพ ซึ่งจะมีข้อดีตรงที่ มีความยืดหยุ่นมากกว่า และยังได้รวมความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ที่ค่อนข้างหลากหลายกว่าประกันสุขภาพแบบแยกจ่าย
ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายจำนวน 100,000 บาท จะถูกรวมอยู่ในความคุ้มครองแบบเหมาจ่ายทั้งหมด โดยที่เราจะไม่ต้องเพิ่มเลย
สรุปแล้วการทำประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายดีกว่าหรือไม่ อันนี้เราต้องดูในเรื่องของความต้องการด้วยครับ เพราะความต้องการความคุ้มครองของคนเราแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน โดยที่หากคุณต้องการความคุ้มครองที่มากจากประกันสุขภาพเหมาจ่ายแน่นอนว่า คุณก็ต้องมีการจ่ายชำระเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้หลายคนได้เข้าใจถึงประกันสุขภาพมากขึ้น และสำหรับใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพ เราขอแนะนำ KWI Finsurance แผนประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองทั้งชีวิตและสุขภาพสูงสุดถึง 10 ล้านบาทต่อปี พร้อมค่าห้องสูงสุดถึง 9,000 บาทต่อวัน และสิทธิ์รักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง สูงสุดถึง 50,000 บาทต่อปี พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษีเบี้ยประกันสุขภาพ สูงสุด 25,000 บาทต่อปี